จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ชื่อเรื่องวิจัย  :  ความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ผู้วิจัย  :  นายดิษฐ์สรินทร์  นะมะหิมา  นายศรายุทธ  ราชไสยกิจ  นายวิศรุต  คำเมือง   นางสาวอมรรัตน์  สำเภา
ปริญญา  :  นิเทศศาสตรบัณฑิต  (นศ.บ.)  (วิทยุ – โทรทัศน์) 
สถาบัน  :  มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ปีการศึกษา  :  2555

บทคัดย่อ
                การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการศึกษาความคิดเห็น  ทัศนคติของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษ  ซึ่งเป็นภาษาหลักในการติดต่อสื่อสารโดยเฉพาะประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน  ในปี พ.ศ.2558  จะศึกษาถึงการเตรียมความพร้อม  ปัญหาและอุปสรรค  และการแก้ไขปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของตนเองและสถานศึกษา  กลุ่มตัวอย่างจะสำรวจนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  ตามสถาบันกวดวิชา  และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  จำนวน  374  คน  โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวมรวมข้อมูล  เป็นการวิจัยเชิงสำรวจและสุ่มโดยบังเอิญ  ใช้ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ในการวิเคราะห์ข้อมูล
                ผลการวิจัยปรากฏว่า  ปัญหาด้านทักษะภาษาอังกฤษทั้ง  4  ด้าน  คือ  การพูด  ฟัง  อ่าน  และเขียน   ของนักเรียนนักศึกษาอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและเกือบต่ำสุด  คือส่วนใหญ่พูดผิดพูดถูก  ฟังและอ่านได้บางครั้ง  และเขียนได้ในประโยคสั้นๆ  การเข้าอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษมีน้อยมาก  ภาษาที่สนใจนอกจากภาษาอังกฤษคือภาษาจีน  เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นภาษาที่พูดกันทั่วโลก
                การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาผลการวิจัยพบว่า  ส่วนใหญ่สถานศึกษาจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน  และทัศนคติต่อประชาคมอาเซียนนั้นนักเรียนนักศึกษามองว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญและควรฝึกหัดไว้  และประเทศไทยยังไม่พร้อมในการจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี  พ.ศ.2558

ปัญหานำวิจัย
                1.  ปัญหาที่ประเทศไทยขาดทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษนั้น  มีอะไรบ้าง
                2.  การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  มีความจำเป็นอย่างไร
                3.  นักเรียน  นักศึกษามีความพร้อมกับการที่ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือไม่  อย่างไร

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
                1.  เพื่อศึกษาถึงการเตรียมความพร้อมของนักเรียน  นักศึกษา  กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก  3  ปีข้างหน้า
                2.  เพื่อศึกษาทัศนคติของนักเรียน  นักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
3.  เพื่อศึกษาปัญหา  อุปสรรคในการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ขอบเขตงานวิจัย
                การวิจัยเรื่องนี้  จะทำการศึกษาและสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา  ตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ    และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  ในพื้นที่ตำบลหมากแข้ง  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี  โดยสร้างเครื่องมือคือ แบบสอบถาม  เพื่อสำรวจความเห็นของนักเรียนนักศึกษา

นิยามศัพท์เฉพาะ
                ความคิดเห็น  หมายถึง  ข้อความ  คำพูด  ทัศนคติ  ความรู้สึกของประชาชนต่อเรื่องราวที่ผู้สัมภาษณ์กำหนดเรื่องให้ ส่วนมากจะแสดงความคิดเห็นถึงข่าวสารที่ประชาชนติดตาม เช่น  การเมือง  เศรษฐกิจ  สังคม 
                นักเรียน  หมายถึง  ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 7 18 ปี หรืออยู่ในระดับการเรียนช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1  ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
                นักศึกษา  หมายถึง  ผู้ที่อยู่ในระดับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย  ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงระดับปริญญาเอก
                ภาษาอังกฤษ  หมายถึง  ภาษาที่มีกำเนิดในประเทศอังกฤษ  เป็นภาษาที่ประชาคมทั่วโลกพูด  เพื่อสื่อสารกับคนต่างชาติ  เพราะถือว่าเป็นภาษาสากลในการดำเนินงานทางธุรกิจ  การท่องเที่ยว  การพัฒนาประเทศ  เป็นต้น
                ประชาคมอาเซียน  หมายถึง  ประชาคมที่อาเซียนกำหนดให้ประเทศทั้ง 10 ประเทศรวมตัวกันภายในปี  พ.ศ.2558  โดยประชาคมได้แบ่งออกเป็น 3 ประการ  ดังนี้  ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน  ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                1.  ได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมของนักเรียน  นักศึกษา  กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก  3  ปีข้างหน้า
                2.  ได้ทราบถึงทัศนคติของนักเรียน  นักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 
                3.  ได้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษของประเทศ

สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
                จากการศึกษาค้นคว้าการวิจัยครั้งนี้  สรุปผลการวิเคราะห์ได้ดังนี้
                ผลการรับรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนส่วนใหญ่ทราบว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี  พ.ศ.2558  และรับรู้ผ่านทางสื่อ  โดยสื่อวิทยุโทรทัศน์มากที่สุด  คิดเป็นร้อยละ  29.0  ส่วนภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างกันเมื่อเกิดประชาคมอาเซียนคือภาษาอังกฤษนั้น  นักเรียน  นักศึกษาส่วนใหญ่ทราบ  ร้อยละ  94.1  และไม่ได้เข้าอบรมภาษาอังกฤษเพิ่มเติมมากถึงร้อยละ  68.4
                ผลการวิจัยด้านการเตรียมความพร้อมของตนเอง  ด้านทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีทั้งหมด 4  ด้าน  คือ  การพูด  การฟัง  การอ่าน  และการเขียน  ผลปรากฏว่า  ด้านการพูดของนักเรียน  นักศึกษา  จะพูดผิดพูดถูกเมื่อเวลาที่สนทนากับคนต่างชาติ  จัดเรียงลำดับความคิดและคำไม่เป็นลำดับ  ออกเสียงยังไม่ถูกต้อง  ด้านการฟัง  ส่วนใหญ่จะฟังแล้วสามารถแปลได้บางคำ  ซึ่งมีพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษมาพอสมควร  ด้านการอ่าน  เช่นเดียวกับการฟังคืออ่านแล้วสามารถแปลได้บางคำ  บางครั้งต้องอาศัยพจนานุกรมภาษาอังกฤษช่วยในการแปลความหมาย  แต่มีความยุ่งยากในการค้นหาคำและเสียเวลา  และด้านการเขียนส่วนใหญ่จะเขียนภาษาอังกฤษได้บ้าง  เช่น  การเขียนประโยคสั้นๆ  เข้าใจ  รวมถึงการเขียนคำศัพท์ง่ายๆ  เป็นต้น
                ผลการวิจัยจากหัวข้อข้างต้น  นักเรียน  นักศึกษาที่มีปัญหาในการใช้ภาษาอังกฤษมากจะมีค่าร้อยละน้อยกว่า  โดยเฉพาะด้านการพูดภาษาอังกฤษ  นักเรียน  นักศึกษาที่พูดได้คล่อง  สื่อสารได้ดีนั้น  จะมีค่าร้อยละ  6.7  เท่านั้น  ซึ่งเป็นค่าที่น้อยกว่าในหมวดนี้
                นอกจากภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาหลักที่จะใช้ในการสื่อสารระหว่างกันในประชาคมอาเซียนแล้ว  นักเรียน  นักศึกษายังสนใจและใฝ่รู้อยากจะเรียนเพิ่มเติม  โดยผลปรากฏว่า  ภาษาที่นักเรียนนักศึกษาสนใจมากที่สุดคือ  ภาษาจีน  มีค่าร้อยละ  41.2  เป็นค่าที่มากที่สุดในบรรดาภาษาต่างๆ  ที่ยกตัวอย่างมา  เพราะภาษาจีนเป็นภาษาที่มีการใช้กันทั่วโลก  และมีจำนวนคนพูดภาษานี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  รวมทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ก้าวหน้ากว่าประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา  และเป็นความนิยมของนักเรียนนักศึกษาไทยที่อยากจะไปทำงานที่นั่น  โดยเฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจะสนใจมากเป็นพิเศษ   
                ส่วนการแก้ปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของตนเองนั้น  ผลปรากฏว่า  นักเรียน  นักศึกษาจะไปสนทนากับเจ้าของภาษามากที่สุด  รองลงมาคือการไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากโรงเรียนสอนภาษา  ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามจังหวัดต่างๆ  การเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงนั้นเพื่อให้รู้เกี่ยวกับสำเนียงการพูด  คำศัพท์ต่างๆ  การแสดงท่าทางของเจ้าของภาษา  โดยที่ประเทศไทยมีหลักสูตรให้ท่องคำศัพท์แต่ขาดการสอนให้นักเรียนสนทนากับเจ้าของภาษา  ทำให้การใช้ภาษาอังกฤษขาดตอน  ไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน 
                การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษารับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ผลปรากฏว่า  สถานศึกษาส่วนใหญ่จะจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน  เนื้อหาที่จัดจะเป็นการให้ความรู้ด้านประวัติความเป็นมาของสมาคมอาเซียน  ประชาคมอาเซียน ข้อดีและข้อเสียต่อการเกิดประชาคมอาเซียน  เป็นต้น  รองลงมาคือ  การจัดบรรยายทางวิชาการ  การสัมมนาการเตรียมความพร้อมของประชาชนคนไทย  และนักเรียน  นักศึกษาอยากให้สถานศึกษาเพิ่มเติมกิจกรรมดังกล่าวคือ  การอบรมภาษาอาเซียน  ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน  รวมถึงการจัดกิจกรรมให้ความรู้  การออกค่ายอาเซียน  และการจัดทัศนศึกษาประเทศสมาชิกอาเซียน  เพื่อให้รู้จักสังคม  วัฒนธรรมที่หลากหลาย  และการเป็นมิตรที่ดีต่อกัน
                ทัศนคติของนักเรียนนักศึกษาต่อการเตรียมความพร้อมรับประชาคมอาเซียน  จากการวิเคราะห์ข้อมูลของการวิจัยเรื่องนี้  พบว่า  นักเรียน  นักศึกษามีทัศนคติต่อภาษาอังกฤษว่าเป็นภาษาที่เราทุกคนต้องพูดเพื่อสื่อสารกัน  มีค่าเฉลี่ย  4.18  ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  1.05  อยู่ในเกณฑ์ระดับมาก  และเป็นทัศนคติที่มีค่าสูงสุด  รองลงมานักเรียน  นักศึกษาเชื่อว่า  การเกิดประชาคมอาเซียนจะทำให้การเมือง  เศรษฐกิจ  สังคม  และวัฒนธรรมเจริญก้าวหน้า  ส่วนระดับทัศนคติมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด  นักเรียน  นักศึกษาส่วนใหญ่มองว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมกับการเกิดประชาคมอาเซียนในปี  พ.ศ.2558  มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่  3.47  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  1.04  อยู่ในระดับปานกลาง 

ข้อเสนอแนะ
                ข้อเสนอแนะในการทำงานวิจัยเรื่องดังกล่าวครั้งต่อไป  มีดังนี้
                1. การศึกษาเรื่องการเตรียมตัวของประชาชนคนไทยกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  โดยเฉพาะการใช้ภาษาอังกฤษนั้น  ควรจะมีการวิจัยในครั้งต่อไป  โดยสำรวจเจาะลึกถึงปัญหาที่แท้จริง  หรือสำรวจปัญหาแวดล้อมที่ทำให้ประชาชนคนไทยไม่ฝึกหัดพูดภาษาอังกฤษกัน  เช่น  ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว  ความเป็นอยู่ของประชาชนที่แตกต่างกันในหลายพื้นที่  รวมถึงการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่วประเทศว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร  หรือมีกลวิธีการสอนภาษาอังกฤษหรือไม่  อย่างไร  เป็นต้น
                2. ภาษาอังกฤษยังมีความสำคัญและจำเป็นต่อประชาชนคนไทยในการติดต่อสื่อสารทุกด้าน  ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การท่องเที่ยว  และชื่อเสียงของประเทศ  เป็นต้น  จากนักเรียน  นักศึกษาที่ให้ข้อเสนอแนะมานั้น  สรุปได้ว่า  ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนส่งเสริม  สนับสนุนให้ประชาชนคนไทยเตรียมความพร้อมกับประชาคมอาเซียนให้มากกว่านี้   และที่สำคัญให้สถานศึกษา  จัดหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังให้เพิ่มเติมกิจกรรมด้วยการจัดอบรมภาษาต่างๆ  ในประชาคมอาเซียน  เพื่อให้ได้ความรู้และเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น