ชื่อเรื่องวิจัย : ความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ผู้วิจัย : นายดิษฐ์สรินทร์ นะมะหิมา นายศรายุทธ ราชไสยกิจ นายวิศรุต คำเมือง นางสาวอมรรัตน์ สำเภา
ปริญญา : นิเทศศาสตรบัณฑิต (นศ.บ.) (วิทยุ – โทรทัศน์)
สถาบัน : มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ปีการศึกษา : 2555
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการศึกษาความคิดเห็น ทัศนคติของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษาหลักในการติดต่อสื่อสารโดยเฉพาะประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ.2558 จะศึกษาถึงการเตรียมความพร้อม ปัญหาและอุปสรรค และการแก้ไขปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของตนเองและสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างจะสำรวจนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามสถาบันกวดวิชา และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จำนวน 374 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวมรวมข้อมูล เป็นการวิจัยเชิงสำรวจและสุ่มโดยบังเอิญ ใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการวิจัยปรากฏว่า ปัญหาด้านทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน คือ การพูด ฟัง อ่าน และเขียน ของนักเรียนนักศึกษาอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและเกือบต่ำสุด คือส่วนใหญ่พูดผิดพูดถูก ฟังและอ่านได้บางครั้ง และเขียนได้ในประโยคสั้นๆ การเข้าอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษมีน้อยมาก ภาษาที่สนใจนอกจากภาษาอังกฤษคือภาษาจีน เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นภาษาที่พูดกันทั่วโลก
การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาผลการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่สถานศึกษาจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน และทัศนคติต่อประชาคมอาเซียนนั้นนักเรียนนักศึกษามองว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญและควรฝึกหัดไว้ และประเทศไทยยังไม่พร้อมในการจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558
ปัญหานำวิจัย
1. ปัญหาที่ประเทศไทยขาดทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษนั้น มีอะไรบ้าง
2. การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีความจำเป็นอย่างไร
3. นักเรียน นักศึกษามีความพร้อมกับการที่ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือไม่ อย่างไร
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาถึงการเตรียมความพร้อมของนักเรียน นักศึกษา กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า
2. เพื่อศึกษาทัศนคติของนักเรียน นักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
3. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคในการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ขอบเขตงานวิจัย
การวิจัยเรื่องนี้ จะทำการศึกษาและสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ในพื้นที่ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยสร้างเครื่องมือคือ แบบสอบถาม เพื่อสำรวจความเห็นของนักเรียนนักศึกษา
นิยามศัพท์เฉพาะ
ความคิดเห็น หมายถึง ข้อความ คำพูด ทัศนคติ ความรู้สึกของประชาชนต่อเรื่องราวที่ผู้สัมภาษณ์กำหนดเรื่องให้ ส่วนมากจะแสดงความคิดเห็นถึงข่าวสารที่ประชาชนติดตาม เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สังคม
นักเรียน หมายถึง ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 7– 18 ปี หรืออยู่ในระดับการเรียนช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
นักศึกษา หมายถึง ผู้ที่อยู่ในระดับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงระดับปริญญาเอก
ภาษาอังกฤษ หมายถึง ภาษาที่มีกำเนิดในประเทศอังกฤษ เป็นภาษาที่ประชาคมทั่วโลกพูด เพื่อสื่อสารกับคนต่างชาติ เพราะถือว่าเป็นภาษาสากลในการดำเนินงานทางธุรกิจ การท่องเที่ยว การพัฒนาประเทศ เป็นต้น
ประชาคมอาเซียน หมายถึง ประชาคมที่อาเซียนกำหนดให้ประเทศทั้ง 10 ประเทศรวมตัวกันภายในปี พ.ศ.2558 โดยประชาคมได้แบ่งออกเป็น 3 ประการ ดังนี้ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมของนักเรียน นักศึกษา กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้า
2. ได้ทราบถึงทัศนคติของนักเรียน นักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
3. ได้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษของประเทศ
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
จากการศึกษาค้นคว้าการวิจัยครั้งนี้ สรุปผลการวิเคราะห์ได้ดังนี้
ผลการรับรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนส่วนใหญ่ทราบว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 และรับรู้ผ่านทางสื่อ โดยสื่อวิทยุโทรทัศน์มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 29.0 ส่วนภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างกันเมื่อเกิดประชาคมอาเซียนคือภาษาอังกฤษนั้น นักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่ทราบ ร้อยละ 94.1 และไม่ได้เข้าอบรมภาษาอังกฤษเพิ่มเติมมากถึงร้อยละ 68.4
ผลการวิจัยด้านการเตรียมความพร้อมของตนเอง ด้านทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ด้าน คือ การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ผลปรากฏว่า ด้านการพูดของนักเรียน นักศึกษา จะพูดผิดพูดถูกเมื่อเวลาที่สนทนากับคนต่างชาติ จัดเรียงลำดับความคิดและคำไม่เป็นลำดับ ออกเสียงยังไม่ถูกต้อง ด้านการฟัง ส่วนใหญ่จะฟังแล้วสามารถแปลได้บางคำ ซึ่งมีพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษมาพอสมควร ด้านการอ่าน เช่นเดียวกับการฟังคืออ่านแล้วสามารถแปลได้บางคำ บางครั้งต้องอาศัยพจนานุกรมภาษาอังกฤษช่วยในการแปลความหมาย แต่มีความยุ่งยากในการค้นหาคำและเสียเวลา และด้านการเขียนส่วนใหญ่จะเขียนภาษาอังกฤษได้บ้าง เช่น การเขียนประโยคสั้นๆ เข้าใจ รวมถึงการเขียนคำศัพท์ง่ายๆ เป็นต้น
ผลการวิจัยจากหัวข้อข้างต้น นักเรียน นักศึกษาที่มีปัญหาในการใช้ภาษาอังกฤษมากจะมีค่าร้อยละน้อยกว่า โดยเฉพาะด้านการพูดภาษาอังกฤษ นักเรียน นักศึกษาที่พูดได้คล่อง สื่อสารได้ดีนั้น จะมีค่าร้อยละ 6.7 เท่านั้น ซึ่งเป็นค่าที่น้อยกว่าในหมวดนี้
นอกจากภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาหลักที่จะใช้ในการสื่อสารระหว่างกันในประชาคมอาเซียนแล้ว นักเรียน นักศึกษายังสนใจและใฝ่รู้อยากจะเรียนเพิ่มเติม โดยผลปรากฏว่า ภาษาที่นักเรียนนักศึกษาสนใจมากที่สุดคือ ภาษาจีน มีค่าร้อยละ 41.2 เป็นค่าที่มากที่สุดในบรรดาภาษาต่างๆ ที่ยกตัวอย่างมา เพราะภาษาจีนเป็นภาษาที่มีการใช้กันทั่วโลก และมีจำนวนคนพูดภาษานี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ก้าวหน้ากว่าประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา และเป็นความนิยมของนักเรียนนักศึกษาไทยที่อยากจะไปทำงานที่นั่น โดยเฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจะสนใจมากเป็นพิเศษ
ส่วนการแก้ปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของตนเองนั้น ผลปรากฏว่า นักเรียน นักศึกษาจะไปสนทนากับเจ้าของภาษามากที่สุด รองลงมาคือการไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากโรงเรียนสอนภาษา ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามจังหวัดต่างๆ การเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงนั้นเพื่อให้รู้เกี่ยวกับสำเนียงการพูด คำศัพท์ต่างๆ การแสดงท่าทางของเจ้าของภาษา โดยที่ประเทศไทยมีหลักสูตรให้ท่องคำศัพท์แต่ขาดการสอนให้นักเรียนสนทนากับเจ้าของภาษา ทำให้การใช้ภาษาอังกฤษขาดตอน ไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษารับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผลปรากฏว่า สถานศึกษาส่วนใหญ่จะจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน เนื้อหาที่จัดจะเป็นการให้ความรู้ด้านประวัติความเป็นมาของสมาคมอาเซียน ประชาคมอาเซียน ข้อดีและข้อเสียต่อการเกิดประชาคมอาเซียน เป็นต้น รองลงมาคือ การจัดบรรยายทางวิชาการ การสัมมนาการเตรียมความพร้อมของประชาชนคนไทย และนักเรียน นักศึกษาอยากให้สถานศึกษาเพิ่มเติมกิจกรรมดังกล่าวคือ การอบรมภาษาอาเซียน ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการจัดกิจกรรมให้ความรู้ การออกค่ายอาเซียน และการจัดทัศนศึกษาประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อให้รู้จักสังคม วัฒนธรรมที่หลากหลาย และการเป็นมิตรที่ดีต่อกัน
ทัศนคติของนักเรียนนักศึกษาต่อการเตรียมความพร้อมรับประชาคมอาเซียน จากการวิเคราะห์ข้อมูลของการวิจัยเรื่องนี้ พบว่า นักเรียน นักศึกษามีทัศนคติต่อภาษาอังกฤษว่าเป็นภาษาที่เราทุกคนต้องพูดเพื่อสื่อสารกัน มีค่าเฉลี่ย 4.18 ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.05 อยู่ในเกณฑ์ระดับมาก และเป็นทัศนคติที่มีค่าสูงสุด รองลงมานักเรียน นักศึกษาเชื่อว่า การเกิดประชาคมอาเซียนจะทำให้การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมเจริญก้าวหน้า ส่วนระดับทัศนคติมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด นักเรียน นักศึกษาส่วนใหญ่มองว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมกับการเกิดประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.47 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.04 อยู่ในระดับปานกลาง
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการทำงานวิจัยเรื่องดังกล่าวครั้งต่อไป มีดังนี้
1. การศึกษาเรื่องการเตรียมตัวของประชาชนคนไทยกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะการใช้ภาษาอังกฤษนั้น ควรจะมีการวิจัยในครั้งต่อไป โดยสำรวจเจาะลึกถึงปัญหาที่แท้จริง หรือสำรวจปัญหาแวดล้อมที่ทำให้ประชาชนคนไทยไม่ฝึกหัดพูดภาษาอังกฤษกัน เช่น ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว ความเป็นอยู่ของประชาชนที่แตกต่างกันในหลายพื้นที่ รวมถึงการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่วประเทศว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร หรือมีกลวิธีการสอนภาษาอังกฤษหรือไม่ อย่างไร เป็นต้น
2. ภาษาอังกฤษยังมีความสำคัญและจำเป็นต่อประชาชนคนไทยในการติดต่อสื่อสารทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และชื่อเสียงของประเทศ เป็นต้น จากนักเรียน นักศึกษาที่ให้ข้อเสนอแนะมานั้น สรุปได้ว่า ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนคนไทยเตรียมความพร้อมกับประชาคมอาเซียนให้มากกว่านี้ และที่สำคัญให้สถานศึกษา จัดหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังให้เพิ่มเติมกิจกรรมด้วยการจัดอบรมภาษาต่างๆ ในประชาคมอาเซียน เพื่อให้ได้ความรู้และเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน