จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ชื่อเรื่องวิจัย  :  ความคิดเห็นของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ผู้วิจัย  :  นายดิษฐ์สรินทร์  นะมะหิมา  นายศรายุทธ  ราชไสยกิจ  นายวิศรุต  คำเมือง   นางสาวอมรรัตน์  สำเภา
ปริญญา  :  นิเทศศาสตรบัณฑิต  (นศ.บ.)  (วิทยุ – โทรทัศน์) 
สถาบัน  :  มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
ปีการศึกษา  :  2555

บทคัดย่อ
                การวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการศึกษาความคิดเห็น  ทัศนคติของนักเรียนนักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษ  ซึ่งเป็นภาษาหลักในการติดต่อสื่อสารโดยเฉพาะประเทศไทยจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน  ในปี พ.ศ.2558  จะศึกษาถึงการเตรียมความพร้อม  ปัญหาและอุปสรรค  และการแก้ไขปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของตนเองและสถานศึกษา  กลุ่มตัวอย่างจะสำรวจนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  ตามสถาบันกวดวิชา  และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  จำนวน  374  คน  โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวมรวมข้อมูล  เป็นการวิจัยเชิงสำรวจและสุ่มโดยบังเอิญ  ใช้ค่าร้อยละ  ค่าเฉลี่ย  และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ในการวิเคราะห์ข้อมูล
                ผลการวิจัยปรากฏว่า  ปัญหาด้านทักษะภาษาอังกฤษทั้ง  4  ด้าน  คือ  การพูด  ฟัง  อ่าน  และเขียน   ของนักเรียนนักศึกษาอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและเกือบต่ำสุด  คือส่วนใหญ่พูดผิดพูดถูก  ฟังและอ่านได้บางครั้ง  และเขียนได้ในประโยคสั้นๆ  การเข้าอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาษาอังกฤษมีน้อยมาก  ภาษาที่สนใจนอกจากภาษาอังกฤษคือภาษาจีน  เพราะประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความเติบโตทางเศรษฐกิจและเป็นภาษาที่พูดกันทั่วโลก
                การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษาผลการวิจัยพบว่า  ส่วนใหญ่สถานศึกษาจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน  และทัศนคติต่อประชาคมอาเซียนนั้นนักเรียนนักศึกษามองว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญและควรฝึกหัดไว้  และประเทศไทยยังไม่พร้อมในการจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี  พ.ศ.2558

ปัญหานำวิจัย
                1.  ปัญหาที่ประเทศไทยขาดทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษนั้น  มีอะไรบ้าง
                2.  การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  มีความจำเป็นอย่างไร
                3.  นักเรียน  นักศึกษามีความพร้อมกับการที่ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนหรือไม่  อย่างไร

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
                1.  เพื่อศึกษาถึงการเตรียมความพร้อมของนักเรียน  นักศึกษา  กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก  3  ปีข้างหน้า
                2.  เพื่อศึกษาทัศนคติของนักเรียน  นักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
3.  เพื่อศึกษาปัญหา  อุปสรรคในการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ขอบเขตงานวิจัย
                การวิจัยเรื่องนี้  จะทำการศึกษาและสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย  นักศึกษาในระดับอุดมศึกษา  ตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ    และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  ในพื้นที่ตำบลหมากแข้ง  อำเภอเมือง  จังหวัดอุดรธานี  โดยสร้างเครื่องมือคือ แบบสอบถาม  เพื่อสำรวจความเห็นของนักเรียนนักศึกษา

นิยามศัพท์เฉพาะ
                ความคิดเห็น  หมายถึง  ข้อความ  คำพูด  ทัศนคติ  ความรู้สึกของประชาชนต่อเรื่องราวที่ผู้สัมภาษณ์กำหนดเรื่องให้ ส่วนมากจะแสดงความคิดเห็นถึงข่าวสารที่ประชาชนติดตาม เช่น  การเมือง  เศรษฐกิจ  สังคม 
                นักเรียน  หมายถึง  ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 7 18 ปี หรืออยู่ในระดับการเรียนช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 1  ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
                นักศึกษา  หมายถึง  ผู้ที่อยู่ในระดับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย  ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงระดับปริญญาเอก
                ภาษาอังกฤษ  หมายถึง  ภาษาที่มีกำเนิดในประเทศอังกฤษ  เป็นภาษาที่ประชาคมทั่วโลกพูด  เพื่อสื่อสารกับคนต่างชาติ  เพราะถือว่าเป็นภาษาสากลในการดำเนินงานทางธุรกิจ  การท่องเที่ยว  การพัฒนาประเทศ  เป็นต้น
                ประชาคมอาเซียน  หมายถึง  ประชาคมที่อาเซียนกำหนดให้ประเทศทั้ง 10 ประเทศรวมตัวกันภายในปี  พ.ศ.2558  โดยประชาคมได้แบ่งออกเป็น 3 ประการ  ดังนี้  ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน  ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
                1.  ได้ทราบถึงการเตรียมความพร้อมของนักเรียน  นักศึกษา  กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในอีก  3  ปีข้างหน้า
                2.  ได้ทราบถึงทัศนคติของนักเรียน  นักศึกษาที่มีต่อการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 
                3.  ได้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคในการใช้ภาษาอังกฤษรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการใช้ภาษาอังกฤษของประเทศ

สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
                จากการศึกษาค้นคว้าการวิจัยครั้งนี้  สรุปผลการวิเคราะห์ได้ดังนี้
                ผลการรับรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนส่วนใหญ่ทราบว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี  พ.ศ.2558  และรับรู้ผ่านทางสื่อ  โดยสื่อวิทยุโทรทัศน์มากที่สุด  คิดเป็นร้อยละ  29.0  ส่วนภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างกันเมื่อเกิดประชาคมอาเซียนคือภาษาอังกฤษนั้น  นักเรียน  นักศึกษาส่วนใหญ่ทราบ  ร้อยละ  94.1  และไม่ได้เข้าอบรมภาษาอังกฤษเพิ่มเติมมากถึงร้อยละ  68.4
                ผลการวิจัยด้านการเตรียมความพร้อมของตนเอง  ด้านทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งมีทั้งหมด 4  ด้าน  คือ  การพูด  การฟัง  การอ่าน  และการเขียน  ผลปรากฏว่า  ด้านการพูดของนักเรียน  นักศึกษา  จะพูดผิดพูดถูกเมื่อเวลาที่สนทนากับคนต่างชาติ  จัดเรียงลำดับความคิดและคำไม่เป็นลำดับ  ออกเสียงยังไม่ถูกต้อง  ด้านการฟัง  ส่วนใหญ่จะฟังแล้วสามารถแปลได้บางคำ  ซึ่งมีพื้นฐานการเรียนภาษาอังกฤษมาพอสมควร  ด้านการอ่าน  เช่นเดียวกับการฟังคืออ่านแล้วสามารถแปลได้บางคำ  บางครั้งต้องอาศัยพจนานุกรมภาษาอังกฤษช่วยในการแปลความหมาย  แต่มีความยุ่งยากในการค้นหาคำและเสียเวลา  และด้านการเขียนส่วนใหญ่จะเขียนภาษาอังกฤษได้บ้าง  เช่น  การเขียนประโยคสั้นๆ  เข้าใจ  รวมถึงการเขียนคำศัพท์ง่ายๆ  เป็นต้น
                ผลการวิจัยจากหัวข้อข้างต้น  นักเรียน  นักศึกษาที่มีปัญหาในการใช้ภาษาอังกฤษมากจะมีค่าร้อยละน้อยกว่า  โดยเฉพาะด้านการพูดภาษาอังกฤษ  นักเรียน  นักศึกษาที่พูดได้คล่อง  สื่อสารได้ดีนั้น  จะมีค่าร้อยละ  6.7  เท่านั้น  ซึ่งเป็นค่าที่น้อยกว่าในหมวดนี้
                นอกจากภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาหลักที่จะใช้ในการสื่อสารระหว่างกันในประชาคมอาเซียนแล้ว  นักเรียน  นักศึกษายังสนใจและใฝ่รู้อยากจะเรียนเพิ่มเติม  โดยผลปรากฏว่า  ภาษาที่นักเรียนนักศึกษาสนใจมากที่สุดคือ  ภาษาจีน  มีค่าร้อยละ  41.2  เป็นค่าที่มากที่สุดในบรรดาภาษาต่างๆ  ที่ยกตัวอย่างมา  เพราะภาษาจีนเป็นภาษาที่มีการใช้กันทั่วโลก  และมีจำนวนคนพูดภาษานี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  รวมทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ก้าวหน้ากว่าประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา  และเป็นความนิยมของนักเรียนนักศึกษาไทยที่อยากจะไปทำงานที่นั่น  โดยเฉพาะนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจะสนใจมากเป็นพิเศษ   
                ส่วนการแก้ปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษของตนเองนั้น  ผลปรากฏว่า  นักเรียน  นักศึกษาจะไปสนทนากับเจ้าของภาษามากที่สุด  รองลงมาคือการไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมจากโรงเรียนสอนภาษา  ซึ่งมีอยู่ทั่วไปตามจังหวัดต่างๆ  การเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของภาษาโดยตรงนั้นเพื่อให้รู้เกี่ยวกับสำเนียงการพูด  คำศัพท์ต่างๆ  การแสดงท่าทางของเจ้าของภาษา  โดยที่ประเทศไทยมีหลักสูตรให้ท่องคำศัพท์แต่ขาดการสอนให้นักเรียนสนทนากับเจ้าของภาษา  ทำให้การใช้ภาษาอังกฤษขาดตอน  ไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน 
                การเตรียมความพร้อมของสถานศึกษารับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  ผลปรากฏว่า  สถานศึกษาส่วนใหญ่จะจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียน  เนื้อหาที่จัดจะเป็นการให้ความรู้ด้านประวัติความเป็นมาของสมาคมอาเซียน  ประชาคมอาเซียน ข้อดีและข้อเสียต่อการเกิดประชาคมอาเซียน  เป็นต้น  รองลงมาคือ  การจัดบรรยายทางวิชาการ  การสัมมนาการเตรียมความพร้อมของประชาชนคนไทย  และนักเรียน  นักศึกษาอยากให้สถานศึกษาเพิ่มเติมกิจกรรมดังกล่าวคือ  การอบรมภาษาอาเซียน  ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน  รวมถึงการจัดกิจกรรมให้ความรู้  การออกค่ายอาเซียน  และการจัดทัศนศึกษาประเทศสมาชิกอาเซียน  เพื่อให้รู้จักสังคม  วัฒนธรรมที่หลากหลาย  และการเป็นมิตรที่ดีต่อกัน
                ทัศนคติของนักเรียนนักศึกษาต่อการเตรียมความพร้อมรับประชาคมอาเซียน  จากการวิเคราะห์ข้อมูลของการวิจัยเรื่องนี้  พบว่า  นักเรียน  นักศึกษามีทัศนคติต่อภาษาอังกฤษว่าเป็นภาษาที่เราทุกคนต้องพูดเพื่อสื่อสารกัน  มีค่าเฉลี่ย  4.18  ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  1.05  อยู่ในเกณฑ์ระดับมาก  และเป็นทัศนคติที่มีค่าสูงสุด  รองลงมานักเรียน  นักศึกษาเชื่อว่า  การเกิดประชาคมอาเซียนจะทำให้การเมือง  เศรษฐกิจ  สังคม  และวัฒนธรรมเจริญก้าวหน้า  ส่วนระดับทัศนคติมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด  นักเรียน  นักศึกษาส่วนใหญ่มองว่าประเทศไทยยังไม่พร้อมกับการเกิดประชาคมอาเซียนในปี  พ.ศ.2558  มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่  3.47  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  1.04  อยู่ในระดับปานกลาง 

ข้อเสนอแนะ
                ข้อเสนอแนะในการทำงานวิจัยเรื่องดังกล่าวครั้งต่อไป  มีดังนี้
                1. การศึกษาเรื่องการเตรียมตัวของประชาชนคนไทยกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  โดยเฉพาะการใช้ภาษาอังกฤษนั้น  ควรจะมีการวิจัยในครั้งต่อไป  โดยสำรวจเจาะลึกถึงปัญหาที่แท้จริง  หรือสำรวจปัญหาแวดล้อมที่ทำให้ประชาชนคนไทยไม่ฝึกหัดพูดภาษาอังกฤษกัน  เช่น  ฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว  ความเป็นอยู่ของประชาชนที่แตกต่างกันในหลายพื้นที่  รวมถึงการเรียนการสอนของโรงเรียนทั่วประเทศว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร  หรือมีกลวิธีการสอนภาษาอังกฤษหรือไม่  อย่างไร  เป็นต้น
                2. ภาษาอังกฤษยังมีความสำคัญและจำเป็นต่อประชาชนคนไทยในการติดต่อสื่อสารทุกด้าน  ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การท่องเที่ยว  และชื่อเสียงของประเทศ  เป็นต้น  จากนักเรียน  นักศึกษาที่ให้ข้อเสนอแนะมานั้น  สรุปได้ว่า  ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนส่งเสริม  สนับสนุนให้ประชาชนคนไทยเตรียมความพร้อมกับประชาคมอาเซียนให้มากกว่านี้   และที่สำคัญให้สถานศึกษา  จัดหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังให้เพิ่มเติมกิจกรรมด้วยการจัดอบรมภาษาต่างๆ  ในประชาคมอาเซียน  เพื่อให้ได้ความรู้และเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ข่าววันเด็กแห่งชาติ โรงเรียนบ้านหนองโดกฯ (ย้อนหลัง)

"สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี"
วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา  โรงเรียนบ้านหนองโดกนาคำโนนธาตุ  ได้จัดงานวันเด็กแห่งชาติ  ประจำปี 2555 ณ เวทีหน้าห้องสมุดร่วมใจศิษย์เก่า ช่วงเช้ามีพิธีเปิดโดยผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองโดกนาคำโนนธาตุ  นายประพันธ์ ขันธพัฒน์  มีการแสดงของเด็กตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  รวมทั้งมีการแสดงของเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านหนองโดก  บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานตามประสาเด็ก  ในช่วงเที่ยงมีการเลี้ยงอาหารกลางวันตามคุ้มบ้านต่างๆ  และมีการแจกขนมแก่เด็กทุกคนด้วย

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

ศึกษาดูงาน นักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 วันที่ 23 - 25 มกราคม 2555

      นักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ชั้นปีที่ 3 ทั้ง 3 แขนงวิชา ได้ไปศึกษาดูงานการดำเนินงานของหน่วยงานด้านนิเทศศาสตร์ ระหว่างวันที่ 23 - 25 มกราคมนี้ โดยเดินทางไปตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 23 มกราคม เพื่อไปถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ไปมอบเงินช่วยเหลือฟื้นฟูจังหวัดที่ประสบมหาอุทกภัยใหญ่เมื่อปีที่แล้ว จำนวน 10,000 บาท มอบให้มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา  การนี้คณาจารย์และนักศึกษาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มรภ.พระนครศรีอยุธยาให้การต้อนรับ


มรภ.อุดรธานี มอบเงินแก่ มรภ.พระนครศรีอยุธยา ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

 สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์










 สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส















 มหาวิทยาลัยบูรพา





      ต่อมาวันที่ 24 มกราคม ไปศึกษาดูงานที่สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Spring News และสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สำนักงานใหม่ และวันที่ 25 มกราคม ไปศึกษาดูงานการดำเนินงานขอหนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ "ลานมะพร้าว" ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี ซึ่งการศึกษาดูงานทั้ง 3 แห่งนี้ได้รับความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาสาขาวิชานิเทศศาสตร์ของเราอย่างมาก



งานฉลอง 119 ปี เมืองอุดรธานี ประจำปี 2555

      เมื่อวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี  พร้อมหัวหน้าส่วนราชการทุกหน่วยงาน เป็นประธานในพิธีและร่วมงานฉลองจังหวัดอุดรธานี ครบรอบ 119 ปี ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ถนนทหาร 
      งานฉลองนี้เริ่มด้วยพิธีทำบุญตักบาตร  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีร่วมตักบาตรพระสงฆ์กว่า 100 รูป กับส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดอุดรธานี พิธีถวายพานพุ่ม พานดอกไม้สักการะ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระผู้สร้างเมืองอุดรธานี พิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมงาน ต่อมาทายาทราชนิกูล "ทองให่ญ่" โดย พล.อ.อ.ม.ร.ว.ศิริพงษ์ ทองใหญ่ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ขึ้นไปถวายพานพุ่มดอกไม้สักการะที่หน้าอนุสาวรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีจุดธูปเทียนบริเวณพานบายศรีใหญ่ เพื่อประกอบพิธีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง เสร็จแล้ว มีการแสดงฟ้อนรำถวายสักการะ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีขึ้นไปถวายพานพุ่มดอกไม้สักการะ พร้อมกับจุดธูปเทียนที่หน้าอนุสาวรีย์ และหน้าโต๊ะบวงสรวงสังเวยดวงพระวิญญาณ พระผู้สร้างเมืองอุดรธานี  เพื่อกระทำพิธีบวงสรวงสังเวย และปักธูปบริเวณโต๊ะเครื่องสังเวยร่วมกับราชนิกูล หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ การฟ้อนรำบวงสรวงต่อหน้าอนุสาวรีย์  ซึ่งเป็นสุภาพสตรีในจังหวัดอุดรธานีร่วมฟ้อนรำรวมทั้งสิ้น 3,500 คนโดยประมาณ สุดท้ายผู้ว่าราชการจังหวัดุดรธานี กล่าวคำสดุดีพระเกียรติคุณ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือหรือมณฑลอุดร ในช่วงที่ประเทศไทยเกิดปัญหาทางมณฑลฝ่ายเหนือเกิดขึ้นเกี่ยวกับฝรั่งเศสบริเวณสองฝั่งแม่น้ำโขง และทรงเป็นแม่ทัพยกขึ้นไปปราบปรามพวกฮ่อด้านมณฑลอุดร เมื่อกล่าวเสร็จ ผู้ที่เป็นนางรำกว่า 3,500 คนขึ้นไปถวายพวงมาลัยที่หน้าอนุสาวรีย์ เป็นอันเสร็จพิธีการฉลองเมืองอุดรธานี ครบรอบ 119 ปี ประจำปี 2555


พานบายศรีใหญ่



ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมทำบุญตักบาตรกับส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดอุดรธานี

ม.ร.ว.ทองน้อย ทองใหญ่ ร่วมทำบุญตักบาตร



มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ถวายพานดอกไม้สักการะ พระผู้สร้างเมืองอุดรธานี




ราชนิกูล "ทองใหญ่" ถวายพานดอกไม้สักการะ พระผู้สร้างเมืองอุดรธานี





พิธีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง


การแสดงฟ้อนรำ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี






ผู้ว่าฯ จังหวัด ถวายพานดอกไม้สักการะ และร่วมพิธีบวงสรวงสังเวยดวงพระวิญญาณ



นางรำกว่า 3,500 คน รำถวายแด่พระผู้สร้างเมืองอุดรธานี


ผู้ว่าฯ จังหวัดกล่าวสดุดีพระเกียรติคุณ



นางรำถวายพวงมาลัยหน้าอนุสาวรีย์ฯ